ลูกค้าโรงพิมพ์ระบบเฟล็กโซ่และโคทติ้งทั้งกลุ่มผู้ประกอบการพิมพ์ระบบเฟล็กโซ่และโคทติ้งถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยกลุ่มโรงพิมพ์ในระบบเฟล็กโซ่ต้องมีการทำความสะอาดลูกอะนิล็อคซ์อยู่เป็นประจำเพื่อป้องกันการอุดตันจากหมึกพิมพ์ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจวัดผลเพื่อเป็นตัวอ้างอิงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังการทำความสะอาดเพื่อให้แน่ใจว่าจะผลิตงานพิมพ์ที่ได้คุณภาพ อีกทั้งไม่ใช่ว่าทุกวิธีการทำความสะอาดจะสามารถขุดเอาคราบหมึกอุดตันโดยเฉพาะการอุดตันในลูกอะนิล๊อคซ์ที่มีความละเอียดสูง โดยเฉพาะจากลูกอะนิล๊อคซ์ที่มาจากกระบวนการขึ้นรายสกรีนด้วยระบบเลเซอร์ Capatch จะสามารถช่วยผู้ใช้ในการตรวจสอบว่าการทำความสะอาดทั้งด้วยตัวผู้ใช้งานเอง หรือใช้ตรวจเช็คการทำความสะอาดจากผู้รับจ้างช่วงในการทำความสะอาดอีกที |
Feeder Jumbo Inliner Kappa van Dam b.v. |
|
โรงพิมพ์ระบบอ๊อฟเซตโดยปกติในยูนิตสุดท้ายของเครื่องพิมพ์ในระบบอ๊อฟเซต จะมีการติดตั้งระบบการโคทจึงมีการใช้ลูกอะนิล๊อคซ์ tri-helical ลูกกราเวียร์ หรือลูกลามิเนตกาว จึงเป็นการยากที่จะตรวจสอบสภาพการอุดตันในลูกกลิ้งต่างๆดังกล่าวเพราะสารเคลือบโดยส่วยใหญ่มักมีคุณสมบัติโปร่งแสงยากต่อการตรวจสอบด้วยกล้องขยาย การพิมพ์เคลือบในระบบกราเวียร์ปริมาตรหลุมเซลของลูกกลิ้งพิมพ์กราเวียร์สำหรับการเคลือบ (Gravure roll for full coating) ก็สามารถตรวจวัดได้โดย Capatch ซึ่งลูกดังกล่าวก็ต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อตรวจเช็คสภาพการอุดตัน |
Printcontrol pannels Jumbo Inliner
|
|
ผู้รับจ้างทำความสะอาดลูกอะนิล๊อคซในปัจจุบันการทำความสะอาดลูกอะนิล๊อคซ์มักมีการ outsource จ้างผู้ชำนาญการทำความสะอาดโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการเหล่านี้จำเป็นต้องมีการตรวจวัดผลการทำความสะอาดเพื่อการันตีผลการขัดทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังการบริการ ผู้ผลิตหมึกพิมพ์ สารเคลือบ และกาวสามารถใช้ Capatch เพื่อเป็นตัวกลางในการหาสาเหตุในการแก้ปัญหาการพิมพ์ การเคลือบ หรือการทากาว เพราะในบางกรณีคุณภาพการพิมพ์ออกมาไม่ได้คุณภาพ ซึ่งอาจเกิดจากปริมาตรของหลุมเซลไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดจากหมึกพิมพ์ผิดเฉดสี ซึ่งCapatch จะเป็นตัววัดผลเพื่อช่วยในการตัดสินว่าปัญหาเกิดจากปริมาตรหมึกจากหลุมเซลของอะนิล็อคซ์ไม่เหมาะสมหรือไม่ ผู้ผลิตเครื่องพิมพสามารถใช้ Capatch เพื่อช่วยในการหาสาเหตุในการแก้ปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น |
Folder Jumbo Inliner Kappa van Dam b.v. |